รู้หรือไม่!? สเปคส่วนไหนคือสิ่งสำคัญการซื้อสมาร์ทโฟนมาเล่นเกมกันแน่
นับตั้งแต่ปี 2017 ที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนก็ถูกผลิตให้มีสเปคที่เร็วและแรงมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล (CPU), RAM หรือแม้แต่การ์ดจอ (GPU) เองก็ตาม จนกระทั่งแบรนด์ Razer ได้เปิดตัว Razer Phone สมาร์ทโฟนเกมมิ่งออกมาอย่างจริงจัง
จนมาถึงปี 2018 ก็มี Xiaomi Black Shark และ Nubia Red Magic เปิดตัวออกมาตามๆ กัน อย่างไรก็ตาม หลายคนก็คงอยากจะเล่นเกมหนักๆ โดยไม่ต้องซื้อสมาร์ทโฟนตัวท็อปราคาแพงๆ ดังนั้น ในวันนี้เราจะมาบอกถึงส่วนประกอบสำคัญที่ส่งผลให้มีความเร็วมากที่สุด และอาจจะทำให้หลายคนเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราจะมาบอกกันทีละส่วน
มากันที่ส่วนแรกที่ใครหลายคนมองข้ามแต่สำคัญที่สุดในเรื่องของความเร็วบนสมาร์ทโฟนอย่าง CPU ที่เราต้องดูเรื่องของจำนวนคอร์ (Core) และความเร็วเป็นหลัก ซึ่งตัวเลขยิ่งสูงก็จะยิ่งดีนั่นเอง
รวมไปถึง GPU ที่ต้องเข้ากันได้กับ CPU เช่น Snapdragon ที่ถือว่าเป็น CPU ที่ดีที่สุดสำหรับแอนดรอยด์ ซึ่งทำงานร่วมกับ GPU ในชื่อ Adreno ที่พัฒนาโดย Qualcomm เหมือนกัน ส่งผลให้มีความเสถียรในการใช้งานและเล่นเกมมากที่สุด
• ซีรี่ 4xx / 2xx ส่วนใหญ่จะอยู่ในสมาร์ทโฟนราคาประหยัด เน้นการใช้งานทั่วไปและเกมที่มีกราฟิกเบาๆ
• ซีรี่ย์ Exynos 9 (9810/8895) จะอยู่ในสมาร์ทโฟนตัวท็อป มีการทำงานและความเร็วใกล้เคียงหรือมากกว่า Snapdragon 8xx
• ซีรี่ย์ Exynos 7 (9610/7885/7880) จะอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับกลางของ Samsung เช่น A 2017 Series ที่ถือว่าเล่นเกมภาพกราฟิกระดับกลางได้ดี และใช้งานทั่วไปได้อย่างไหลลื่น
• ซีรี่ย์ Exynos 7 Octa (7420/7870/7580) จะฝังอยู่รุ่นกลางไปถึงล่างอย่างเช่น J Series ซึ่งทำงานทั่วไปได้ไหลลื่น แต่อาจจะไม่เหมาะกับการเล่นเกมสักเท่าไหร่
สำหรับชิป Kirin เราจะเห็นในแบรนด์ของ Huawei และ Honor ซึ่งจะมีหลายซีรี่ย์มากมาย ซึ่งเราแบ่งจากรุ่นหลักได้คร่าวๆ ดังนี้
• Kirin 970 / 960 เป็นชิปเซ็ตที่ใช้กับตัวท็อปของของ Huawei และ Honor ซึ่งเหมาะกับการเล่นเกมและใช้งานทั่วไปเป็นอย่างมาก
• Kirin 659 จัดอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับกลางและราคาประหยัด ซึ่งสามารถเล่นเกมได้ในระดับกลาง
ทั้งนี้ ก็ยังมีหน่วยประมวลผล Apple A Series จากฝั่ง iOS ที่ใช้กับ iPhone ทุกรุ่น ซึ่งความเสถียรถือว่าดีที่สุดในตอนนี้ และเป็นคู่แข่งในเรื่องความเร็วกับ Snapdragon เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ชิปเซ็ตตัวนี้ก็ดูจะเหนือกว่าพอสมควรในเรื่องของความคมชัดและความสวยในเกม เนื่องจากฝั่งแอนดรอยด์ต้องปรับให้ตัวเกมมีความเข้ากันได้กับสมาร์ทโฟนหลายรุ่นกว่านั่นเอง
มาต่อกันที่ส่วนสำคัญที่รองลงมาจาก CPU และ GPU อย่าง RAM กันบ้าง หลายคนอาจจะชอบเลือกสมาร์ทโฟนที่มี RAM เยอะๆ ไว้ก่อน (4/6/8GB) ซึ่งลืมเรื่องของ CPU ไป แต่เราต้องขอบอกเลยว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นนี้เป็นส่วนที่สำคัญลำดับกลางๆ เท่านั้น โดย RAM ที่เยอะนั้นจะช่วยเรื่องการเก็บข้อมูลชั่วคราวของเกมต่างๆ ทำให้ไม่เกิดอาการค้างเท่านั้น และเราก็แนะนำให้ขนาดของ RAM มีความจุ 2GB ขึ้นไปหากเราต้องการเล่นเกมกราฟิกหนักๆ
Write a Comment