ส่องความต่างระหว่าง Smart TV และ Android TV ชอบแบบไหน..เลือกใช้ให้ถูก!

รีวิว - เปรียบเทียบ realme C12, Vivo Y11 และ Samsung Galaxy A11 สมาร์ตโฟนรุ่นเด่น ราคาน่าโดน! รุ่นไหนน่าใช้ที่สุด?

จากเดิมที่บรรดาแบรนด์สมาร์ตโฟนต่างงัดไม้เด็ดมาสู้กันที่รุ่นบนแบบดุเดือด แต่สำหรับในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ ตลาดสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นกลับครึกครื้นกว่าที่เคย เพราะแบรนด์ต่างๆ พากันเข็นมือถือรุ่นใหม่ ยกเครื่องฟีเจอร์การใช้งานแบบจัดเต็มมาให้จนไม่รู้จะเลือกรุ่นไหนดีแล้ว

เริ่มต้นการที่เรื่องของดีไซน์การออกแบบ ซึ่งทั้ง 3 รุ่นที่เราหยิบมาให้ให้ชมกัน ทั้ง realme C12, Vivo Y11 และ Samsung Galaxy A11 ต่างมีรูปลักษณ์และความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไปตามคอนเซ็ปต์ของการออกแบบในแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่น ซึ่งจุดนี้เชื่อได้ว่าเป็นด่านแรกสุดที่หลายคนจะเริ่มเปิดใจก่อนที่จะเข้าไปพิจารณารายละเอียดในจุดอื่นๆ เป็นด่านต่อไป

หลังจากผ่านในเรื่องของดีไซน์กันมาแล้ว จุดที่ควรพิจารณาเป็นลำดับต่อไปก็คือ หน้าจอแสดงผล ซึ่งหน้าจอแสดงผลนี้ถือว่าเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากอีกส่วนหนึ่งเลยละค่ะ ถ้าเปรียบกับอวัยวะในร่างกายแล้ว หน้าจอแสดงผลก็เปรียบเสมือนกับดวงตาของเรา ที่เป็นจุดเชื่อมโยงการรับรู้และสัมผัสต่างๆ ผ่านการมองเห็น ภาพที่ถ่ายมาจะเป็นอย่างไร? สีสันจะสวยไหม? การใช้งาน การทัชลื่นติดมือดีหรือเปล่า? เราก็สามารถรับรู้ได้ด้วยการแสดงผลของหน้าจอนี่แหละ

realme C12 เลือกใช้หน้าจอแสดงผลรูปทรงหยดน้ำ Mini-drop Fullscreen แบบ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1,600 x 720 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 พื้นที่การแสดงผลหน้าจอ (Screen-to-body Ratio) มากถึง 88.7% และมีค่าความสว่างอยู่ที่ 420 nits พร้อมครอบทับหน้าจอด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3

หน่วยประมวลผล เปรียบเสมือนกับมันสมองของสมาร์ตโฟนแต่ละเครื่อง ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการประมวลผลและควบคุมการทำงานต่างๆ ให้สามารถตอบสนองและแสดงผลตามความต้องการของผู้ใช้งาน ดังนั้นหากต้องการการใช้งานที่ลื่นไหล เร็ว แรง ไม่ติดขัด ก็อาจจะต้องมาพิจารณากันที่จุดนี้เป็นหลัก

realme C12 มาพร้อมกับชิปประมวลผลซีพียู Helio G35 จาก MediaTek แบบ 8 แกน (Octa-Core) เป็นหัวใจหลักในทำงานบนตัวเครื่อง โดยตัวชิปผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 12nm. ความเร็วสูงสุด 2.3GHz ทำงานร่วมกับ GPU PowerVR GE8320 พร้อมหน่วยความจำ RAM 3 GB + ROM 32 GB รองรับการเพิ่มพื้นที่ความจำด้วย MicroSD สูงสุด 256 GB โดยให้คะแนนทดสอบบนแอปพลิเคชั่น Antutu Benchmark อยู่ที่ประมาณ 108,636 คะแนน

Vivo Y11 เลือกใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 439 แบบ 8 แกน (Octa-Core) เทคโนโลยี 12nm ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ทำงานร่วมกับ GPU Adreno 505 พร้อมจับคู่กับหน่วยความจำ RAM 3GB + ROM 32GB รองรับการเพิ่มพื้นที่ความจำด้วย MicroSD สูงสุด 256GB โดยให้คะแนนทดสอบบนแอปพลิเคชั่น Antutu Benchmark อยู่ที่ประมาณ 97,273 คะแนน

Samsung Galaxy A11 มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 450 แบบ 8 แกน (Octa-Core) ผลิตด้วยเทคโนโลยี 14nm. ความเร็วสูงสุด 1.8GHz ทำงานร่วมกับ GPU Adreno 506 หน่วยความจำ RAM 3GB + ROM 32GB รองรับการเพิ่มพื้นที่ความจำด้วย MicroSD สูงสุด 512GB โดยให้คะแนนทดสอบบนแอปพลิเคชั่น Antutu Benchmark อยู่ที่ประมาณ 90,931 คะแนน

การใช้งานสมาร์ตโฟนแต่ละรุ่นจะยากหรือง่ายนั้น ขึ้นอยู่กับหน้าตา หรือ User Interface หรือที่นิยมเรียกกันอย่างย่อๆ ว่า UI เป็นสำคัญ ถ้าคิดอย่างง่ายๆ ก็เหมือนห้องห้องหนึ่ง ถ้าห้องรกเราก็หาของยาก เผลอๆ อาจจะหาไม่เจอเลยก็ได้ ในขณะทีอีกห้องหนึ่งมีการจัดวางเป็นระเบียบ สวยงาม การหาสิ่งของต่างๆ ก็จะง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อมาเทียบกับ UI ของสมาร์ตโฟนแต่ละแบรนด์นั้น ถือว่าพัฒนากันมาดีและตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย จนจะไปเทียบว่าเป็นห้องรกห้องหนึ่งนั้นคงไม่มีแล้ว ตอนนี้คงมีแต่ห้องที่สวยงาม อยู่ที่ว่าคุณจะชอบห้องสไตล์ไหนแค่นั้นเอง

realme C12 ประมวลผลการทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟสที่ทางเรียลมีออกแบบเอง โดยจะเน้นที่ความเรียบง่าย การเรียกใช้งานหรือเข้าถึงเมนูต่างๆ บนตัวเครื่องสามารถทำได้ง่าย ไม่ซ้ำซ้อน และมาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น

Samsung Galaxy A11 มาพร้อมการทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI Core 2.0 หน้าตาอินเทอร์เฟสมีความเรียบง่าย (มากๆ) เน้นการจัดวางเป็นกลุ่ม เป็นหมวดหมู่ ช่วยให้ใช้งานได้สบายๆ มาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานพื้นฐานแบบครบครัน และฟีเจอร์เด่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น

มาถึงตัวเด่นที่หลายคนยกให้เป็นพระเอกของงานอย่าง กล้องถ่ายภาพ กันบ้าง ยอมรับมาเถอะว่าหลายคนเทใจให้กับสมาร์ตโฟนที่ถ่ายรูปสวย แม้บางครั้งจะไปเตะตาเข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกของรุ่นใดรุ่นหนึ่งมาแล้ว แต่ท้ายที่สุดแล้วถ้ารุ่นนั้นดันถ่ายรูปไม่แจ่มพอก็ไม่เลือกอยู่ดี มาดูกันว่าทั้ง 3 รุ่นที่เราหยิบมาแนะนำให้ชมกันวันนี้จะโดนใจกันหรือเปล่า

realme C12 มาพร้อมกล้องถ่ายรูปแบบ 3 เลนส์ (Triple Camera) ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.2, เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 และเลนส์ B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 ตัวเลนส์ครอบทับด้วยกระจก 5 ชั้น (5P) พร้อมมีไฟแฟลช LED ให้ในตัว ใช้ระบบโฟกัสภาพ PDAF รองรับการซูมภาพแบบ Digital ได้สูงสุด 4X รองรับ AI Beauty และ AI HDR พร้อมโหมดถ่ายภาพเร่งสีสัน Chroma Boost, โหมด Filter, โหมดถ่ายภาพบุคคล, โหมด Panorama, โหมดผู้เชี่ยวชาญ, โหมด Slow-motion, โหมด Time-Lapse และโหมดสำหรับถ่ายภาพกลางคืน NightScape

และในส่วนของการถ่ายวิดีโอ รองรับการบันทึกภาพวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080P@30FPS และรองรับการบันทึกภาพวีดีโอสโลว์โมชั่นที่ความละเอียดสูงสุด 720P@30FPS

สำหรับกล้องหน้าของ realme C12 ใช้เป็นกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 ตัวเลนส์ครอบทับด้วยกระจก 3 ชั้น (3P) รองรับ AI Beauty และ AI HDR พร้อมโหมด Filter, โหมดถ่ายภาพบุคคล, โหมด Panorama และโหมด Time-Lapse

Vivo Y11 มาพร้อมกล้องเลนส์คู่ ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.2 และเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED ระบบโฟกัสภาพ PDAF พร้อมโหมดถ่ายภาพ Professional, โหมด Time-Lapse, โหมด Slow, โหมด Live Photos, โหมด HDR, โหมด Panorama, โหมด Portrait Bokeh พร้อมรองรับการถ่ายภาพแบบใส่ Filters, Watermark, AI Face Beauty, Palm Capture และ Voice Control และรองรับการบันทึกภาพวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080P@30FPS

Samsung Galaxy A11 ติดตั้งกล้องหลังเป็นแบบ 3 เลนส์ (Triple Camera) ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/1.8, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.2 และเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED รองรับการซูมภาพแบบ Digital ได้สูงสุด 8X รองรับ AI Beauty และ AI HDR พร้อมโหมดถ่ายภาพ Live Focus, โหมด Panorama, โหมด Ultra-wide, โหมด Filter และโหมด Pro รองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080P@30FPS

กล้องหน้าของ Samsung Galaxy A11 ใช้เป็นกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 รองรับ AI Beauty และ AI HDR พร้อมโหมดถ่ายภาพ Live Focus, Wide Selfie และ Filter รองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080P@30FPS

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ realme C12, Vivo Y11 และ Samsung Galaxy A11

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ realme C12, Vivo Y11 และ Samsung Galaxy A11

นอกเหนือจากดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ จอแสดงผลที่สวยงาม และประสิทธิภาพการใช้งานของตัวเครื่องที่ดีแล้ว การที่เราสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ไม่สะดุด ก็เป็นอีกจุดสำคัญที่ควรนำมาประกอบการพิจารณาด้วยเช่นกัน ถ้าสมาร์ตโฟนเครื่องนั้นสามารถใช้งานได้นานพอ โดยที่ไม่ต้องคอยชาร์จไฟบ่อยๆ ให้เสียเวลา ก็น่าสนใจไม่น้อย ยิ่งถ้าซัพพอร์ตในเรื่องของชาร์จไวให้ด้วยละก็ แจ่มเลย!

ตัวเครื่อง realme C12 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานข้ามวันแน่นอน รองรับการชาร์จไฟ 10W พร้อมอีกหนึ่งความสามารถในการทำตัวเองให้เป็นแหล่งพลังงานให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ (Reverse Charging) ด้วยการเชื่อมต่อผ่านทางสาย MicroUSB

Vivo Y11 มากับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh และใช้ AI ในการช่วยจัดการกับทรัพยากรบนตัวเครื่อง ช่วยประหยัดพลังงาน จึงทำให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน พร้อมรองรับการชาร์จ 10W

Samsung Galaxy A11 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 4,000 mAh รองรับการใช้งานพื้นฐานได้ยาวนานตลอดวัน ซึ่งเมื่อเทียบกับ 2 รุ่นด้านบนแล้ว ถือว่าให้ความจุมาน้อยที่สุด แต่ก็เลือกเพิ่มความสามารถมาให้สูสีกันด้วยชาร์จไว 15W

ถือเป็นพ้อยท์หลักที่เรานำสมาร์ตโฟนทั้ง 3 รุ่นนี้ มาแนะนำและเปรียบเทียบให้ชมกันในวันนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยราคาที่ใกล้เคียงและอยู่ใน Range เดียวกัน ซึ่งจากที่ตรวจสอบราคากลางอัปเดตล่าสุดเดือนพฤศจิกายน ทั้ง realme C12, Vivo Y11 และ Samsung Galaxy A11 โดนตบให้ลงมาเท่ากันแบบเป๊ะๆ ที่ 3,999 บาท ในมุมมองของผู้บริโภค นอกจากจะต้องพิจารณาในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานที่ตรงกับความต้องการแล้ว "ราคา" ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ต้องมาดูกันหนักๆ ว่าคุ้มค่าและตอบโจทย์ของเราหรือยัง

realme C12 มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีน้ำเงิน Marine Blue และสีแดง Coral Red พร้อมความจุ RAM 3 GB + ROM 32 GB ในราคาวางจำหน่าย 3,999 บาท (พฤศจิกายน 2563) พร้อมโปรโมชันพิเศษเมื่อซื้อผ่าน AIS Shop สามารถเป็นเจ้าของ realme C12 ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 889 บาทเท่านั้น*

สำหรับคนที่มีงบอยู่ในมือไม่เกิน 5,000 บาท และกำลังมองหาสมาร์ตโฟนดีๆ สักเครื่องมาไว้ใช้งาน ทั้ง 3 รุ่นที่เลือกมาแนะนำและเปรียบเทียบให้ชมกันในวันนี้ realme C12, Vivo Y11 และ Samsung Galaxy A11 (ซึ่งหลายคนอาจจะมีตัวเลือกที่มากกว่านี้) ต่างเป็นสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจ และมีคาแรคเตอร์ จุดเด่น ที่สู้กันได้แบบสูสีมากๆ

ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว ก็ดูเหมือนว่าทางฝั่ง realme C12 จะโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ทั้งในเรื่องของความจุแบตเตอรี่, ขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า และกล้องหลังที่รองรับโหมดถ่ายภาพกลางคืน ตอบโจทย์คนชอบถ่ายภาพและเน้นการใช้งานที่ยาวนานค่ะ ส่วนคนที่ชอบเซลฟี่อาจจะเบี่ยงไปที่ Vivo Y11 และใครที่ต้องใช้งานมือถืออยู่ตลอดเวลา การรอชาร์จแบตนานๆ อาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญ ดังนั้นถ้าอยากให้มีชาร์จไวเพิ่มมาสักหน่อยก็อาจจะหมุนไปที่ Galaxy A11 แทน

ทั้งนี้แต่ละคนต่างมีความต้องการทางด้านการใช้งานและความชอบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการตัดสินใจเลือกซื้อ จึงควรจะต้องพิจารณาในหลายๆ ส่วนประกอบเพิ่มเติมด้วย ซึ่งทั้ง 3 รุ่นที่เรายกมาในวันนี้ ถือได้ว่าเป็น สมาร์ตโฟนรุ่นเด่น ในราคาน่าโดน! ที่ไม่ว่าจะจับเอารุ่นไหนไปก็คุ้มค่าแน่นอนค่ะ

สมาร์ทโฟน ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี มือถือ 5G รุ่นใหม่ล่าสุด ปี 2022

สมาร์ทโฟน ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี ปี 2022

สมาร์ทโฟน ยี่ห้อไหนดี ปฏิเสธได้ว่า สมาร์ทโฟน กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิตไปเรียบร้อย มองไปทางไหนอย่างน้อยต้องพกกันไว้คนละเครื่องเพื่อติดต่อ ความบันเทิง หรือภารกิจอื่น ๆ แต่ทั้งนี้การจะเลือกซื้อ สมาร์ทโฟน ยี่ห้อไหนดี เป็นคำถามที่เวลาต้องการซื้อเครื่องใหม่มักถูกค้นหาคำตอบอย่างมาก และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าหากคุณลงทุนซื้อไปแล้วจะได้รับสิ่งดีที่สุดกลับคืนมา ลองมาศึกษาข้อมูลต่อไปนี้กันเลยค่ะ

เลือกซื้อสมาร์ทโฟนต้องดูเรื่องไหนบ้าง

1.ระบบปฏิบัติการ

ปัจจัยแรกที่ต้องดูก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อ สมาร์ทโฟน ยี่ห้อไหนดี คือ ระบบปฏิบัติการ ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ระบบ มีความแตกต่างดังนี้

ระบบ iOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานได้เฉพาะสมาร์ทโฟนในกลุ่ม iPhone จุดเด่นสำคัญนอกจากการอัปเดตที่มักเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยังมีความปลอดภัยสูงด้วยระบบป้องกันดีเยี่ยม เชื่อมต่อการทำงานกับอุปกรณ์ในเครือ Apple ได้อย่างง่ายดาย

ระบบ Android เป็นระบบที่สมาร์ทโฟนทุกยี่ห้อใช้งาน จุดเด่นคือ ระบบเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มีการอัปเดตแอปใหม่ ๆ ที่น่าสนใจบ่อยครั้ง แต่อาจติดปัญหาเรื่องช่องโหว่ในด้านความปลอดภัยที่ต้องคอยระวังสำหรับคนที่ติดตั้งแอปแปลก ๆ เยอะ

2.ลักษณะ ขนาดของหน้าจอ

พื้นฐานเบื้องต้นของคนที่ใช้งานสมาร์ทโฟนมักมองไปยังเรื่องหน้าจอเป็นสำคัญไม่ว่าจะเรื่องของขนาด, การออกแบบ บางรุ่นที่ออกใหม่ล่าสุดสามารถพับหน้าจอได้ รวมถึงระบบการส่องสว่าง การแสดงผล ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน หากคุณเน้นการรับชมความบันเทิงหน้าจอใหญ่จะได้อรรถรสมากกว่า แต่ถ้าเน้นการพกพาอาจเน้นลักษณะหน้าจอมีความมน หล่นแล้วไม่ตกกระแทกเสียหายง่าย เป็นต้น

3.คุณภาพของกล้องถ่ายรูป

อีกฟังก์ชันที่เรียกว่าแทบเป็นความฮิตในการเลือกซื้อ สมาร์ทโฟน ยี่ห้อไหนดี ทุกครั้งคือ คุณภาพของกล้องถ่ายรูป ไล่ตั้งแต่เรื่องความคมชัด, จำนวนกล้อง, ฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ใช้งาน, คุณภาพของกล้องหน้า, การปรับเลนส์กล้อง ฯลฯ หากเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษแนะนำว่าควรเลือกซื้อรุ่นที่ให้ความใส่ใจกับการทำงานของกล้องมากกว่าเรื่องอื่น เพื่อให้คุณได้ในสิ่งที่ตนเองคาดหวัง

4.ระดับความจุของแบตเตอรี่

อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดคือ ระดับความจุของแบตเตอรี่ หากคุณเป็นคนใช้งานประจำ ขาดสมาร์ทโฟนไม่ได้ แนะนำว่าควรเลือกรุ่นที่มีความจุสูง ๆ รองรับระบบการชาร์จเร็ว เพื่อให้การใช้งานไม่ติดขัด แต่อาจแลกมาด้วยราคาสูง ส่วนใครที่ใช้ตามปกติ ไม่ได้เน้นเล่นเกม หรือดูหนังอะไรมากนัก เน้นความกะทัดรัด พกพาสะดวก ก็เลือกขนาดแบตปกติได้ไม่มีปัญหา

5.วัสดุที่ใช้ผลิต มาตรฐานการป้องกันน้ำ ฝุ่น

ผู้ใช้สมาร์ทโฟนบางคนอาจมองข้าม แต่นี่เป็นอีกข้อที่บ่งบอกเลยว่าคุณจะได้ของคุณภาพดีแค่ไหน วัสดุที่ผลิตควรมีความแข็งแรงทนทาน ป้องกันการตกกระแทกได้ในระดับหนึ่ง และอย่าลืมอ่านค่าการป้องกันน้ำและฝุ่นเอาไว้ด้วย ไม่มีใครรู้ว่าการใช้งานในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น หากมาตรฐานเหล่านี้มีความเหมาะสมก็ไม่ต้องกลัวสมาร์ทโฟนพังเสียหายจนถึงขั้นต้องซื้อใหม่

6.เรื่องอื่น ๆ ตามที่ต้องการ

ท้ายที่สุดยังสามารถนำเอาเรื่องอื่น ๆ มาเป็นปัจจัยเพื่อเลือกซื้อด้วยก็ได้ เช่น งบประมาณที่ตนเองมี, เรื่องการรับประกัน การส่งซ่อมศูนย์, ฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่น ๆ เป็นต้น เลือกตามที่คิดว่าเหมาะกับตนเองมากที่สุดจะช่วยให้เกิดความคุ้มค่าดังที่ตั้งใจเอาไว้

5 อันดับ สมาร์ทโฟน

ที่ยอดฮิตและขายดี ปี 2022

5 อันดับ Smart TV ยอดฮิตและขายดีที่สุด

สมาร์ทโฟน จัดโปรฯ

ลดราคา 20-80%

#Apple iPhone 13

ดีไซน์ที่ทนทาน เร็วสุด แรงสุด

โทรศัพท์ไอโฟน โทรศัพท์มือถือของ Apple นี้จะเด่นในเรื่องของภาพลักษณ์ที่ดูดีและเทคโนโลยีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ค่อนข้างทันสมัย และสามารถนำไปใช้เข้ากับอุปกรณ์เทคโนโลยีอื่น ๆ ได้ง่าย เช่นนาฬิกาอัจฉริยะหรือหูฟังไร้สาย เป็นต้น อีกทั้งยังมีการอัพเดทตัวเครื่องต่าง ๆ อยู่เสมอ ทำให้เหมาะมากกับผู้ที่ชอบในเรื่องของเทคโนโลยีและมีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยต้องการโทรศัพท์ที่เข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตในเรื่องต่าง ๆ ง่ายขึ้น ซึ่งไอโฟนรุ่นล่าสุดตอนนี้คือ iPhone 13 มาพร้อม 5G และใช้ชิพเซ็ต A15 Bionic หรือหากต้องการกล้องระดับโปร Pro Camera

สมาร์ทโฟน iPhone 13 ระบบกล้องคู่ที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone พร้อมชิป A15 Bionic ที่เร็วสุดขั้ว, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น แบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่, ดีไซน์ที่ทนทาน, 5G ที่เร็วสุดแรง1 และจอภาพ Super Retina XDR ที่สว่างยิ่งขึ้น

จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว2

โหมดภาพยนตร์เพิ่มมิติความชัดตื้นและสลับจุดโฟกัสในวิดีโอของคุณโดยอัตโนมัติ

ระบบกล้องคู่สุดล้ำที่ประกอบด้วยกล้องไวด์และอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP พร้อมคุณสมบัติ “สไตล์ภาพถ่าย”, HDR อัจฉริยะ 4, โหมดกลางคืน และการบันทึก HDR ระดับ 4K ในแบบ Dolby Vision

กล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12MP พร้อมโหมดกลางคืน และการบันทึก HDR ระดับ 4K ในแบบ Dolby Vision

ชิป A15 Bionic เพื่อประสิทธิภาพที่เร็วสุดขั้ว

เล่นวิดีโอ นานสูงสุด 19 ชั่วโมง3

ดีไซน์ที่ทนทานพร้อม Ceramic Shield

ความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ IP68 ชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม4

5G เพื่อการดาวน์โหลดที่เร็วสุดแรงและการสตรีมคุณภาพสูง1

iOS 15 อัดแน่นด้วยคุณสมบัติใหม่มากมายเพื่อทำอะไรๆ ด้วย iPhone ได้มากยิ่งกว่าที่เคย5

รองรับอุปกรณ์เสริม MagSafe เพื่อการยึดติดที่ง่ายดายและการชาร์จแบบไร้สายที่เร็วขึ้น6 เช็คราคาล่าสุดที่ :

#Samsung Galaxy Z Flip 3

สมาร์ทโฟนจอพับได้ ความเร็ว อัจฉริยะ และพลังประมวลผลที่เหนือกว่า

โทรศัพท์ samsung แบรนด์มือถือที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานด้วยภาพลักษณ์ดีไซน์ที่สวยคมและโดดเด่น อีกทั้งยังใช้งานง่าย อย่างตระกูลที่เป็นที่รู้จักอย่าง Samsung galaxy ที่มีให้เลือกมากมายหลายรุ่นด้วยจุดเด่นในเรื่องของคุณภาพกล้องที่คมชัด สีสวย มีลูกเล่นในการถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ทำให้เหมาะมากกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปหรือต้องใช้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ

สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Z Flip 3 5G เครื่องศูนย์ไทย เครื่องใหม่ ประกันศูนย์ samsung 1ปี Flip3 ซัมซุง

Samsung Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมความเร็ว ความอัจฉริยะ และพลังประมวลผลที่เหนือกว่า

สมาร์ทโฟนจอพับได้ที่ใส่กระเป๋าขนาดเล็กได้พอดี พกพาสะดวกแค่ 4.2นิ้ว (ขณะพับ) เท่านั้น

จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล Refresh Rate 120Hz

หน้าจอด้านนอก Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว ความละเอียด 260 x 512 พิกเซล มีระบบสัมผัส

กล้องหลัก HDR 12 + 12MP Ultra wide รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ขนาดภาพสูงสุด 9216 x 6912 พิกเซล

กล้องหน้า 10MP รูรับแสงขนาด ƒ/2.4

ถ่ายรูปได้มุมใหม่และสะดวกด้วย Flex Mode เสมือนมีขาตั้งกล้องในตัว แค่ปรับมุมที่ชอบและถ่ายเซลฟี่ได้แบบ hands-free

บันทึกวิดีโอระดับ HD, 30fps / 4K, 30/60 fps / 8K, 24 fps ความละเอียดของภาพสูงสุด 7680 x 4320 พิกเซล

ออกแบบมาโดยใช้อะลูมิเนียมที่แข็งแรงที่สุดใน Galaxy Z ทั้งด้านหน้าและหลัง

ระบบปฏิบัติการ One UI 3.1 based on Android 11

หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 Octa-core 2.0 GHz / หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 660

มาตรฐานกันน้ำ IPX8 Water Resistance กันน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที

แบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 15W / Wireless 9W

หน่วยความจำ RAM 8GB / ROM 128GB, 256GB

มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Black, Cream, Green, Lavender

เช็คราคาล่าสุดที่ :

#Xiaomi 11T 5G

เทคโนโลยีถ่ายภาพอัจฉริยะ (AI Camera)

สมาร์ทโฟน Xiaomi 11T 5G (โทรศัพท์มือถือพร้อมระบบปฏิบัติการ) จอแสดงผล AMOLED 10-bit (1.07 พันล้านสี)

จอแสดงผล HDR 10+

จอแสดงผลมีรูสำหรับกล้องหน้า (Punch-Hole Display)

อัตราการสัมผัสหน้าจอ 120 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 120Hz)

กว้าง 6.67 นิ้ว (แนวทะแยง)

ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล (395 ppi)

ระบบสัมผัส : 480Hz touch-sensing

วัสดุรอบตัวเครื่อง

หน้าจอกระจกแข็ง Gorilla Glass Victus

ด้านหลังของเครื่องทำจาก กระจกแข็ง

ขอบรอบเครื่องทำจากอลูมิเนียม

ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor)

ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint)

ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)

ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light)

ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer)

ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity)

ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope)

ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ (Orientation)

คุณสมบัติกันน้ำและระบบป้องกัน (Waterproof & Resistance to dust)

– กันน้ำได้ชั่วคราว

– ฝุ่นละออง (Resistance to dust)

เช็คราคาล่าสุดที่ :

แบรนด์ดัง มาแรง

สมาร์ทโฟน Vivo วีโว่ Mobileโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน รุ่น V21(5G) RAM8+3* ROM256 OIS Night Selfie – For your Best Moments

หน่วยประมวลผล MTK 800U 5G SOC

RAM 8 GB / ROM 256 GB

Battery 4000mAh

Operating System Funtouch OS 11.1

Screen 6.44 นิ้ว 6.44 FHD+/ 90Hz

กล้องหลัง 44MP กล้องหน้า 64MP OIS+8MP+2MP

Type Dual SIM and Dual Standby

หมายเหตุ:โปรโมชั่นของแถมอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เช็คราคาล่าสุดที่ :

#OPPO Reno6 5G

ดีไซน์ใหม่ โดดเด่นสะกดทุกสายตา

โทรศัพท์ oppo แบรนด์น้องใหม่ราคาย่อมเยาแต่คุณภาพไม่เป็นรองใครทั้งในเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องที่เน้นความเรียบหรู ฟังก์ชั่นกล้องถ่ายรูปที่มีความละเอียดสูงและความจุตัวเครื่องที่มาก และที่สำคัญก็คือมีความทนทาน จึงเหมาะมากกับผู้ที่อยากได้มือถือสักเครื่องที่ราคาไม่สูงมากมีฟังก์ชั่นครบและสามารถใช้ได้นาน

จะเห็นว่าโทรศัพท์มือถือแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ในการจะเลือกซื้อโทรศัพท์สักเครื่องจึงควรพิจารณาถึงการใช้งานและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวเราเองด้วยว่าเหมาะกับการใช้แบบไหน เพราะหากเราสามารถเลือกโทรศัพท์ที่เหมาะกับตัวเองที่สุด ก็จะทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยนั่นเอง

สมาร์ทโฟน OPPO Reno6 5G (8+128) โทรศัพท์มือถือ กล้องหลัง AI 64MP MediaTek Dimensity 900

เผยโฉมดีไซน์ใหม่บางเบาทุกมิติ

โดดเด่นสะกดทุกสายตา

พร้อมฟังก์ชันอื่นๆอีกมากมาย

ให้คุณใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

เช็คราคาล่าสุดที่ :

สมาร์ทโฟน จัดโปรฯ

ลดราคา 20-80%

การเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ สักเครื่องจึงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาให้ดี ทั้งเรื่องของการใช้งานที่เหมาะกับตัวเองและแอพพลิเคชั่นฟังก์ชั่นเสริมต่าง ๆ ที่อาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่น ซึ่งต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปอย่างแบรนด์ที่เป็นรู้จักและได้รับความนิยมอย่าง Samsung, ไอโฟน หรือ Oppo เป็นต้น แต่ยังมีอีกหลายยี่ห้อ ที่น่าสนใจ อีกทั้งราคาถูก คุณภาพดี มีรุ่นไหน ยี่ห้อไหน ไปดูกันเลยค่ะ

5 สมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ ใช้ดี

จัดโปรฯ ลดราคาพิเศษ

#HUAWEI Mate40 Pro

HUAWEI Mate 40 Pro ใช้ Huawei Mobile Service (HMS) และไม่ได้ติดตั้ง Google Mobile Service (GMS) และ Google Apps ไว้ล่วงหน้า HUAWEI Mate 40 Pro สามารถเข้าถึงแอพยอดนิยมมากมายผ่าน HUAWEI Phone Clone, AppGallery และ Petal Search คุณสามารถดาวน์โหลดแอป Petal Search จาก AppGallery ซึ่งเป็นแอปเครื่องมือค้นหาที่ช่วยให้คุณค้นหาแอปที่คุณไม่พบใน AppGallery ไม่ว่าจะจากลิงก์อย่างเป็นทางการหรือจาก App Store ของบุคคลที่สาม

การแสดงสี: 16.7 ล้านสี Color gamut (DCI-P3)

ความละเอียดหน้าจอ: 1344 x 2772pixels; 456 PPI ขนาดหน้าจอ: 6.76 นิ้ว OLED

กล้องหลัง: 50MP Ultra Vision Camera (Wide Angle, f/1.9)+ 20MP Ultra-Wide Angle Camera (f/1.8)+ 12MP Telephoto Camera (5x optical zoom, f/3.4, OIS) ความละเอียดของภาพ: วิดีโอ : สูงสุด 4K(3840 x 2160) 60fps

กล้องหน้า: 13MP Selfie Camera (f/2.4) + 3D Depth Sensing Camera วิดีโอ: สูงสุด 4K(3840 x 2160) 60fps “

หน่วยความจำ ROM: 256GB RAM: 8GB ช่องการ์ดความจำ: รองรับการ์ดความจำแบบนาโน สูงสุด 256GB (แยกจำหน่าย)

ความจุ: 4400 mAh (ค่าทั่วไป) เทคโนโลยีการชาร์จ: 66W HUAWEI SuperCharge (11V/6A) ประเภทแบตเตอรี่: Li-ion Polymer Battery แบบถอดไม่ได้

#VIVO Y72 5G

VIVO Y72 5G 8+128 GB วีโว่ โทรศัพท์มือถือ 5G I แบตเตอรี่ 5000mAh (TYP) I จอ 6.58 นิ้ว

หน่วยประมวลผล : Dimensity 700

หน่วยประมวลผล : Dimensity 700

RAM : 8GB Rom : 128GB

แบตเตอรี่ : 5000mAh (TYP)

สี : Graphite Black / Dream Glow

ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 11.1

#POCO F3

โทรศัพท์สมาร์ทโฟน POCO F3 5G 8+256GB

Qualcomm® Snapdragon ™ 870 พร้อม 5G

Qualcomm® Kryo ™ 585, CPU Octa-core สูงสุด 3.2GHz

GPU Qualcomm® Adreno ™ 650

กระบวนการผลิต 7nm

โมเด็ม X55 สำหรับการเชื่อมต่อ 5G ที่รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ

เทคโนโลยี LiquidCool 1.0 Plus

พื้นที่จัดเก็บ LPDDR5 + UFS 3.1 – 6 + 128GB, 8 + 256GB

MIUI 12 สำหรับ POCO ซึ่งใช้ Android 11

#OPPO A74 5G

สมาร์ทโฟน OPPO A74 5G (6+128) โทรศัพท์มือถือ จอ 6.5 นิ้ว รองรับ 5G

จอขนาด 6.5 นิ้ว • รูปลักษณ์โดดเด่น หน้าจอเรียบเนียน คมชัด พร้อมความโค้งมนด้านหลัง รูปลักษณ์พรีเมียม

Hyper-color สัมผัสประสบการณ์ได้ในทุกสี พร้อมความสดใส มีชีวิตชีวา

แบตใหญ่จุใจ 5,000 mAh ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น

ใช้งานได้ตลอดวันกับโหมดประหยัดพลังงานอัจฉริยะ ยืดการใช้งานในช่วงสุดท้ายให้นานกว่า

อัตรารีเฟรช 90Hz ลื่นไหลทุกการสัมผัส

18W Fast Charge ชาร์จเร็วพร้อมทุกสถานการณ์

AI 4 กล้องหลัง 48MP ตอบโจทย์การถ่ายภาพทุกช็อต

Al Scence Enhancement 2.0 ระบุฉากหลังได้ตามต้องการ

Al Beautification ดูดีได้ทุกสถานการณ์

Ultra-clear 108MP Image บันทึกโลกของคุณด้วยความคมชัดที่สมบูรณ์แบบ

#Realme GT Neo 2

สมาร์ทโฟน Realme GT Neo 2 (8+128G) [Snapdragon 870 5G Processor], 5000mAh Massive battery 65 SuperDart Charge

จอแสดงผล HDR 10+

– จอแสดงผลมีรูสำหรับกล้องหน้า (Punch-Hole Display)

– อัตราการสัมผัสหน้าจอ 120 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 120Hz)

– กว้าง 6.62 นิ้ว (แนวทะแยง)

– ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล (398 ppi)

– จอแสดงผลมีรูสำหรับกล้องหน้า (Punch-Hole Display) – อัตราการสัมผัสหน้าจอ 120 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 120Hz) – กว้าง 6.62 นิ้ว (แนวทะแยง) – ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล (398 ppi) วัสดุรอบตัวเครื่อง

– หน้าจอกระจกแข็ง

– กรอบพลาสติก

– หน้าจอกระจกแข็ง – กรอบพลาสติก ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor)

– ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint)

– ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)

– ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light)

– ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer)

– ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity)

– ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope)

– ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ (Orientation)

สรุป สมาร์ทโฟน ยี่ห้อไหนดี

ทั้งหมดนี้คือตัวเลือก สมาร์ทโฟน ยี่ห้อไหนดี ที่เราหยิบมาแนะนำให้กับทุกคนที่กำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ ชอบรุ่นไหน หรืออยากได้ฟังก์ชันแบบใดก็พิจารณากันเลย แต่อีกสิ่งที่ห้ามลืมคือต้องเลือกซื้อกับร้านที่ได้มาตรฐาน หรือซื้อกับศูนย์ของยี่ห้อนั้น ๆ เลย เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ใช้งานได้ยาวนาน ตอบโจทย์ตนเองตามที่คาดหวังค่ะ

ส่องความต่างระหว่าง Smart TV และ Android TV ชอบแบบไหน..เลือกใช้ให้ถูก!

จากทีวีจอตู้ที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากดูรายการโทรทัศน์ ปัจจุบันนี้วงการทีวีถูกพัฒนาตามเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปไกล ซึ่งนอกจากความบางของจอและดีไซน์อันทันสมัย ยังมีทีวีแสนฉลาด อย่าง Smart TV และ Android TV ที่ดูเผิ่นๆ อาจจะคล้ายกัน แต่วันนี้ OfficeMate จะพาไปเจาะดูความต่างของทีวีทั้ง 2 แบบ เผื่อใครเล็งทีวีแบบไหนเอาไว้ จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น! ไปดูกันเลย!

Smart TV เป็นทีวียุคใหม่ เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่านทางสาย LAN หรือ ใช้งาน Wi-Fi ได้ สามารถดูหนังฟังเพลงสตรีมเกมจากเว็บไซต์ อย่าง Youtube, iFlix หรือ Netflix ได้ เรียกว่าเป็นทีวีแสนฉลาดที่พัฒนาระบบการใช้งานโดยบริษัทผู้ผลิตทีวี เช่น Samsung, Panasonic หรือ LG ซึ่งสมาร์ททีวีแต่ละยี่ห้อใช้ระบบปฏิบัติแตกต่างกัน อย่าง สมาร์ททีวีจาก Samsung ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen, สมาร์ททีวีจาก Panasonic ใช้ระบบปฏิบัติการ Firefox OS หรือ สมาร์ททีวีจาก LG ใช้ระบบปฏิบัติการ WebOS เป็นต้น

สมาร์ททีวีมีข้อจำกัด คือ ผู้ใช้งานไม่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ได้ หรือติดตั้งเพิ่มเติมได้แค่บางแอปฯ เท่านั้น และบางระบบปฏิบัติการก็ไม่รองรับคีย์บอร์ดภาษาไทย การค้นหาหนัง ละคร ภาพยนตร์ไทยจึงอาจทำได้ยาก นอกจากนั้น การอัปเดตแอปพลิเคชั่นต่างๆ รวมถึงการอัปเดตระบบปฏิบัติการยังไม่รวดเร็วเท่าไหร่นัก

แต่ข้อดีของสมาร์ททีวี คือ ใช้งานง่าย ไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากมายให้ยุ่งยาก แอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล เพราะถูกออกแบบมาสำหรับสมาร์ททีวีนั้นๆ โดยเฉพาะ ทั้งยังสามารถแชร์หน้าจอมือถือไปแสดงบนจอทีวีได้อีกด้วย

Android TV เป็นสมาร์ททีวีรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแบบแอนดรอยด์ (Android) ด้วยการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Google และบริษัทผู้ผลิตทีวี ทำให้แอนดรอยด์ทีวีสามารถใช้งานได้ราวกับสมาร์ทโฟน คือ ผู้ใช้สามารถเลือกดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นและเกม บน Play Store ได้ตามต้องการ และแอปพลิเคชั่นต่างๆ รวมถึงระบบปฏิบัติการก็ยังอัปเดตอยู่เสมอ มีระบบ Google Chomecast สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่าง สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต หรือโน้ตบุ๊ก แล้วสตรีมบนหน้าจอทีวีแอนดรอยด์ได้อย่างง่ายดาย หรือจะเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด จอยสติ๊ก แล้วใช้งานแทนคอมพิวเตอร์ได้เลย

ความสามารถของ Android TV ยังมีมากกว่าการให้ความบันเทิง ด้วย Google Assistant หากภายในบ้านมีอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ คุณก็สามารถสั่งการผ่านแอนดรอยด์ทีวีอัจฉริยะนี้ได้ หรือใครสะดวกสั่งงานด้วยเสียง แอนดรอยด์ทีวีก็พร้อมรับคำสั่งเสียงของคุณ

แต่ความอัจฉริยะก็มาพร้อมการตั้งค่าที่ค่อนข้างยุ่งยาก หากไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android มาก่อน แอนดรอยด์ทีวีก็ทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน

ทีวีอัจฉริยะทั้ง 2 แบบ มีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันออกไป แม้ Android TV จะดูฉลาดแบบสุดๆ แต่ถ้าคุณเน้นดูรายการโทรทัศน์เป็นหลัก ไม่ต้องการทีวีที่มีลูกเล่นมากมาย หรือต้องการทีวีที่ใช้งานกันได้ทั้งครอบครัว Smart TV นั่นถือว่าใช้งานง่าย ไม่ต้องเชี่ยวชาญเรื่องระบบปฏิบัติมากก็ใช้ได้ ทั้งยังมีแอปฯ ยอดนิยมติดตั้งมาให้เสร็จสรรพ เหมาะกับทุกคนในครอบครัว

แต่ถ้าต้องการทีวีที่สามารถมอบความบันเทิงได้แบบเต็มรูปแบบ ทั้งดูรายการโทรทัศน์ ดูหนัง ฟังเพลง สตรีมเกม ท่องอินเทอร์เน็ต เล่นโซเชียล เอาไว้แก้เบื่อช่วงล็อกดาวน์หรือช่วงทำงานที่บ้าน เลือกใช้ Android TV ก็จะได้ฟีเจอร์ครบครัน และตอบโจทย์ได้มากกว่า

หลังจากได้เห็นความแตกต่างของทีวีทั้ง 2 รูปแบบกันไปแล้ว พอจะทำให้ตัดสินใจเลือกได้มากขึ้นมั้ยคะ? ใครตัดสินใจได้แล้ว หรืออยากซื้อทีวีเครื่องใหม่ OfficeMate มีให้เลือกแบบจัดเต็ม ทั้ง Smart TV, Android TV และทีวีรูปแบบอื่นๆ พร้อมมอบประสบการณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบให้คุณถึงบ้าน ช้อปไปใช้แก้เหงาช่วง Work from home คลิกเลย OfficeMate

Write a Comment